การจัดการ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยยึดปฏิญญาและหลักการสากลที่เกี่ยวข้อง และผนวกเข้าเป็นแนวทางการรับมือและประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ

เป้าหมายปี 2563

ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิตลงร้อยละ 10 เทียบกับปีฐาน 2558

แนวทางการบริหารจัดการ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในการดำเนินการตามแนวทางของ UNGC’s Caring for Climate โดยมุ่งเน้นถึงการจัดการประเด็นความเสี่ยงและการสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ผ่านแนวทางการบริหารจัดการ ได้แก่

  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและการลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้ดำเนินการผ่านโครงการประหยัดพลังงานต่างๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ปี 2547 และถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างกันเพื่อขยายผลไปในระดับเครือฯ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การขนส่งและจากอาคาร
  • การส่งเสริมการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างความร่วมมือกับคู่ค้า พันธมิตร ผู้บริโภค ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
  • การส่งเสริมผู้มีส่วนได้เสียให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ของสังคมผ่านสื่อโทรทัศน์ และการสรรค์สร้างนวัตกรรมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง

การดูแลรักษาทรัพยากรน้ำ

น้ำเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงยึดมั่นในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการบริหารจัดการทั้งปริมาณและคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรม

เป้าหมายปี 2563

ลดปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตลงร้อยละ 10 เทียบกับปีฐาน 2558

แนวทางการบริหารจัดการ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในการดำเนินการตามข้อกำหนดของ CEO Water Mandate โดยได้ประกาศมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งสอดคล้องตามมาตรฐานสากล ISO 14001 เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจมีความสอดคล้องกัน โดยมีแนวทางการบริหารจัดการดังนี้

  • การบริหารจัดการความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ โดยใช้เครื่องมือ Global Water Tool (GWT) และ The GEMI Local Water ToolTM(LWT) มาใช้ในการประเมินความเสี่ยงด้านการขาดแคลน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อรับฟังข้อกังวล เพื่อนำมาพัฒนาแผนการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรน้ำในสถานประกอบการและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลดปริมาณการปล่อยน้ำเสียและเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยเครือฯ ถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดในการบำบัดน้ำเสียตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่แหล่งกำเนิด ด้วยการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมติดตามวัดผลคุณภาพน้ำทิ้งก่อนปล่อยให้ได้ตามมาตรฐานกฎหมายกำหนด
  • การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำของชุมชน โดยสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อรับฟังและทำความเข้าใจปัญหาและข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนได้ประสานความร่วมมือกับชุมชนและภาคส่วนต่างๆ ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาและอนุรักษ์แหล่งต้นน้ำใหม่ คุณภาพ ปลอดภัย และเพียงพอสำหรับทุกฝ่าย

การปกป้องระบบนิเวศ
และความหลากหลายทางชีวภาพ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในการปกป้องความสมดุลของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมุ่งมั่นอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างรับผิดชอบ พร้อมทั้งปกป้อง ฟื้นฟูและสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบก ป่าไม้และความหลากหลายทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน

เป้าหมายปี 2563

ร้อยละ 100 ของวัตถุดิบหลักผ่านการประเมินการจัดหาจากแหล่งผลิตที่ไม่บุกรุกทําลายป่าไม้และทรัพยากรทางทะเล

แนวทางการบริหารจัดการ

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นดำาเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพมาโดยตลอด โดยยึดมั่นดำเนินการตามหลักการดังกล่าวตั้งแต่การเลือกสถานที่ตั้งสถานประกอบการที่ต้องไม่อยู่ในแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตํามระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐาน และกฎกระทรวงที่กำหนดไว้ และมีการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ เครือฯ ยังให้ความสําคัญกับการจัดหาวัตถุดิบ ทางการเกษตรที่มาจากแหล่งที่รับผิดชอบและไม่บุกรุกพื้นที่ป่าและทรัพยากรทางทะเล มีส่วนร่วมผลักดันการปกป้อง ฟื้นฟูระบบนิเวศบนบกและป่าไม้เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน

การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
อย่างรับผิดชอบ

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นจัดหาวัตถุดิบหลักจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้พร้อมยังยึดมั่นดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรในการดำเนินการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ เพื่อความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกันในระยะยาว

เป้าหมายปี 2563

ร้อยละ 100 ของคู่ค้าธุรกิจหลักได้รับการตรวจประเมินด้านความยั่งยืน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

แนวทางการบริหารจัดการ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักดีว่าการขับเคลื่อนความยั่งยืนของภาคธุรกิจในระยะยาวจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่อุปทาน จึงให้ความสำคัญต่อการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ พร้อมมุ่งมั่นสนับสนุนและร่วมเสริมสร้างความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยเป้าหมายในการจัดหาวัตถุดิบหลักอย่างรับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ควบคู่ไปกับการประเมิน ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน การป้องกันคู่ค้าธุรกิจไม่ให้เกิดการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการทำงานร่วมกับคู่ค้าธุรกิจหลักเพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดทำแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งกำหนดความคาดหวังต่อคู่ค้าธุรกิจ ครอบคลุมการทำงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่

  • ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ (Product and Service) เน้นในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและบริการ และความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับ
  • ด้านบุคลากร (People) ให้ความสำคัญในเรื่องการปฏิบัติต่อบุคลากรอย่างเป็นธรรมและการเคารพสิทธิมนุษยชน
  • ด้านกระบวนการผลิต (Process) มุ่งสร้างความตระหนักในเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า
  • ด้านการดำเนินงาน (Performance) ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี

นอกจากนี้ เครือฯ ยังมุ่งมั่นพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับแบบออนไลน์ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหาร (Whole Chain Online Traceability) ตั้งแต่การตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบว่ามาจากแหล่งเพาะปลูกหรือแหล่งผลิตที่รับผิดชอบ ไปจนถึงกระบวนการการผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปอาหาร และการกระจายสินค้า โดยมุ่งหวังที่จะใช้ระบบสอบกลับดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและสังคมด้วยการลดความเสี่ยงจากการจัดการห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถตรวจสอบ ตัดสินใจและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพที่มาจากอาหาร (food-outbreak) รวมถึงปัญหาด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานที่พบได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

TOP