ทิปส์เด็ด
เช็คความพร้อมก่อนสัมภาษณ์งานผ่านเน็ต
21 ก.ค. 2560
หลังหางานออนไลน์ได้แล้ว การเตรียมตัวสัมภาษณ์คืองานหินงานหนึ่ง และมันคงหินเข้าไปอีกหากต้องมาสัมภาษณ์งานผ่านเน็ต ทั้งที่จริงแล้วมันอาจจะง่ายกว่าที่คิดก็เป็นได้
ในปัจจุบันหลายบริษัทหันมาใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางในการหาคนที่ “ใช่” เข้าสู่บริษัท ดังนั้นการไปกรอกประวัติในเว็บเครือข่ายหางานอย่าง LinkedIn ทิ้งไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แถมอาจทำให้คุณได้รับข้อเสนอดีๆ จากบริษัทต่างประเทศ โดยไม่ต้องวิ่งไปสมัครงานเอง และถ้าประวัติของคุณเกิดไปเตะตาบริษัทเหล่านั้น ก็เป็นไปได้สูงที่ฝ่ายบุคคลจะขอนัดสัมภาษณ์คุณผ่าน Skype ซึ่งหากคุณจำเป็นต้องสัมภาษณ์งานออนไลน์จริงๆ ก็อย่ากังวลไป เรามีคำแนะนำดีๆ ในการเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันสำคัญของคุณมาฝาก
1. เตรียมอุปกรณ์ของคุณให้พร้อม
สิ่งแรกที่ผู้ถูกสัมภาษณ์งานออนไลน์จะต้องเช็ค คือ มีโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ฝ่ายบุคคลจะใช้ในการขอสัมภาษณ์งานแล้วหรือยัง หากยังไม่มี ก็ควรติดตั้งและสร้างบัญชีผู้ใช้ให้เรียบร้อย
จากนั้นตรวจสอบว่าคุณมีอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่กระตุกหรือไม่ เพื่อให้ในระหว่างที่คุณกำลังนำเสนอตัวเองจะได้จดจ่ออยู่กับการสัมภาษณ์งานได้อย่างเต็มที่ และไม่ต้องมัวพะวงกับเรื่องอินเทอร์เน็ตให้รกสมอง
เมื่อแน่ใจว่าเตรียมทั้งสองสิ่งเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาทดสอบอินเทอร์เน็ตและโปรแกรมต่างๆ ว่าสามารถใช้งานได้ราบรื่นดีหรือไม่ก่อนถึงวันสัมภาษณ์จริง โดยอาจลองทดสอบกับเพื่อนที่ใช้โปรแกรมเหมือนกันก็ได้
2. การฝึกฝนจะทำให้เรามั่นใจขึ้น
การสัมภาษณ์งานออนไลน์ ก็เหมือนกับการสัมภาษณ์งานทั่วไป ซึ่งยิ่งเราฝึกซ้อมบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเราทำได้ดีแค่ไหนเมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ วิธีที่ดีที่สุด คือลองเปลี่ยนมาดูตัวเองในมุมมองของผู้สัมภาษณ์ด้วยการถ่ายวิดีโอเก็บไว้ โดยคุณควรพยายามฝึกมองกล้องเวลาพูด และพูดให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดด้วย
3. นัดวันและยืนยันวันสัมภาษณ์งานให้ชัดเจน
ก่อนวันสัมภาษณ์งานออนไลน์คุณควรตรวจสอบและจดบันทึกวันเวลาสัมภาษณ์งานให้เรียบร้อย เพราะหากมีการติดต่อจากบริษัทต่างประเทศแล้ว เวลาในการทำงานอาจจะแตกต่างกันตามโซนเวลาของโลก คุณจึงควรสอบถามโดยตรงหรือค้นหาจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทตั้งอยู่ในประเทศอะไรและอยู่ในโซนเวลาใด
4. อย่าลืมแสดงความสนใจในตำแหน่งที่สัมภาษณ์
โลกออนไลน์ คือโลกเสมือนจริง หรือ Virtual Reality ที่ใช้การสื่อสารกันผ่านกล้อง มันจึงอาจแตกต่างจากการพูดคุยกันซึ่งหน้าเล็กน้อย ในเรื่องนี้ แมตต์ อับราฮัม อาจารย์จาก Standford Graduate School of Business และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพูดในที่สาธารณะได้กล่าวว่า "อาจเป็นเพราะเราขาดความรู้สึกที่มีความสัมพันธ์จริงๆ กับอีกฝ่าย" ซึ่งเขาได้เสนอเพิ่มเติมว่า หากเราต้องการแสดงความสนใจ หรือแสดงความอบอุ่นผ่านกล้องแล้วล่ะก็ เราควรพยายามทวนคำพูดของอีกฝ่ายหรือพูดยืนยันสิ่งที่เราได้ยิน เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเราให้ความสนใจเขา และยังทำให้อีกฝ่ายมีความเชื่อใจในตัวเรามากยิ่งขึ้น
อับราฮัม ยังแนะนำให้ระวังการใช้น้ำเสียงเวลาพูด และควรคิดก่อนที่จะสื่อสารออกไป โดยให้ใช้ทักษะการสื่อสารในด้านต่างๆ ประกอบ อย่างเช่น การฟังอย่างตั้งใจ การผลัดกันพูด และการใช้คำที่แสดงความขอบคุณหรือการยอมรับ เช่น คำว่า "ค่ะ" "ใช่ค่ะ" หรือ "ขอบคุณสำหรับ…" เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการพูดคุยทางวิดีโอหรือการประชุมออนไลน์ยิ่งขึ้น